เที่ยววันหยุดทั่วกรุง เดินเล่น ชิม ช้อปให้จุใจ
ไม่ต้องออกไปไหนไกลก็สามารถเที่ยวแบบชิล ๆ ได้ในกรุงเทพฯ ทั้งใกล้ เดินทางสะดวก บรรยากาศดี แบบนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว



จากท่าเรือที่ใช้เพื่อการขนส่งทางน้ำสู่คอมมูนิตี้มอลล์สุดเก๋ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จะให้คนกรุงได้ไปสูดอากาศหายใจ ผ่อนคลายอารมณ์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชมความงดงามของคุ้งแม่น้ำยามค่ำคืนที่ส่องสะท้อนแสงสีทองของวัดวาอารามและอาคารบ้านเรือน ซึ่งเปิดไฟส่องสว่างแข่งกับแสงดาวที่สวยงามบนฟากฟ้า โดยโครงการท่ามหาราชอยู่ภายใต้แนวความคิด Riverside Eatery, Urban Oasis, Art & Culture Market ลักษณะของอาคารเป็นแบบเปิดโล่ง ออกแบบให้คงไว้ซึ่งกลิ่นอายของความเป็นเกาะรัตนโกสินทร์ ประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร สุดชิคมากมาย จะมาเดินเล่นชมบรรยากาศหรือนั่งทานอาหารริมแม่น้ำ ก็ทำให้เวลาในวันหยุดของคุณมีค่ายิ่งขึ้นได้เช่นกัน (ขอขอบคุณข้อมูลจาก : thamaharaj.com)


ไม่ต้องไปไกลกรุงก็สามารถสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้านริมน้ำได้
จากแม่น้ำเจ้าพระยานั่งเรือหางยาวเลี้ยวเข้าสู่คลองดาวคะนอง
คลองบางขุนเทียน คลองด่าน แล้วเลี้ยวอีกครั้งเข้าสู่คลองบางหลวง
ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยบ้านเรือนริมน้ำ
นักท่องเที่ยวจะได้ย้อนวัยไปในอดีตด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน
ทั้งการขายของบนเรือ ร้านค้าริมน้ำที่ยังคงขายขนมแบบโบราณ
วัดวาอารามที่สำคัญ อาทิ วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร วัดไทร
วัดคูหาสวรรค์วรวิหาร เป็นต้น
แล้วจึงไปดื่มด่ำกับงานศิลป์ที่บ้านศิลปิน
ซึ่งจะมีการแสดงหุ่นละครเล็กให้ได้ชมฟรีเวลา 14.00 น. ของทุกวัน
ยกเว้นวันพุธ นอกจากนี้ยังสามารถเดินเล่นในชุมชน ทานผัดไทยโบราณ
ดื่มกาแฟโบราณ นั่งวาดภาพระบายสี เลือกซื้อโปสการ์ด ฯลฯ กันได้อีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ บ้านศิลปิน โทรศัพท์ 02-868 5279,
02-868 5279 หรือจะไปนั่งเรือเที่ยวคลองบางกอกน้อย
สัมผัสกลิ่นอายวิถีชีวิตของวันวานก็ได้เหมือนกัน (ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
ททท.)


สุขได้ง่าย ๆ ด้วยการนั่งเรือชิล ๆ ไปตามริมแม่น้ำเจ้าพระยา
แล้วมาขึ้นที่เรือของเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
แหล่งศูนย์รวมความสุขริมแม่น้ำเจ้าพระยาสไตล์โคโรเนียล
เพียบพร้อมไปด้วยร้านค้ากว่า 1,500 ร้าน ซึ่งจำหน่ายทั้งของที่ระลึก
เครื่องประดับ เสื้อผ้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ฯลฯ
และร้านอาหารอีกกว่า 40 ร้าน มีทั้งร้านอาหารไทย ร้านอาหารฟิวชั่น
ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารอิตาลี และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากจะได้เดินทอดน่องเสพบรรยากาศโกดังเก่าแล้ว
ยังสามารถที่จะชื่นชมเมืองกรุงฯ
ริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้จากชิงช้าสวรรค์ยักษ์
ซึ่งมีความสูงจากพื้นดินถึง 60 เมตร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โทรศัพท์ 02-108-4488
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก : thaiasiatique.com)

ถ้าไม่อยากออกไปเผชิญกับแดดที่ร้อนจนตัวจะละลาย
ก็สามารถไปเดินตากแอร์เย็น ๆ
กันได้ที่ห้างสรรพสินค้าสุดหรูแห่งใหม่ใจกลางกรุงอย่างห้างดิ
เอ็มควอเทียร์ ซึ่งมีร้านค้า
ร้านอาหารจากแบรนด์ดังมาเปิดตัวที่นี่มากมาย อาทิ Louis Vuiton, Marc
Jacobs, Jimmy Choo, Prada, Calvin Klein, Coach, Chanel, Saint
Laurent, Dior เป็นต้น
เมื่อเดินช้อปปิ้งกันอย่างจุใจแล้วก็ต้องหาของอร่อยใส่ท้องกันสักหน่อย
ซึ่งศูนย์การค้าแห่งนี้ก็เป็นแหล่งรวมร้านอาหารขึ้นชื่อมากมายเช่นกัน
(ติดตามได้ที่ 10 เมนูอร่อยท้าให้ลองที่ The EmQuartier)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-269-1000
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก : theemdistrict.com)


คนไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
จึงทำให้ในเมืองไทยมีวัดวาอารามต่าง ๆ มากมาย
โดยเฉพาะในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร
ซึ่งเป็นศูนย์รวมแห่งวัดที่สำคัญของประเทศไทยและเป็นที่ประดิษฐานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย
สามารถไปเคารพสักการะ ไหว้เพื่อขอพรหรือเพื่อเสริมสิริมงคลแก่ตัวเอง
วัดและสถานที่สำคัญ อาทิ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง)
วัดอรุณราชวราราม ศาลหลักเมือง ศาลเจ้าพ่อเสือ
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดเล่งเน่ยยี่
วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นต้น ใครสะดวกเดินทางไปที่ไหน
จะไหว้สักกี่วัด ก็เลือกกันได้เลย


ภาพจาก kwan-riamfloatingmarket.com
โลกแห่งเทคโนโลยีอันทันสมัยทำให้เราห่างไกลจากอดีตมากยิ่งขึ้น
แต่คนเมืองใหญ่ก็ยังหวนรำลึกถึงกลิ่นอายของวันวาน
นั่นจึงทำให้สถานที่ท่องเที่ยวแนวพื้นบ้านอย่างตลาดน้ำกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ซึ่งในกรุงเทพฯ ก็มีตลาดน้ำหลายแห่งให้ได้ไปเดินเที่ยว
ชิมอาหารพื้นบ้าน ช้อปปิ้งของที่ระลึกแนวโบราณ อาทิ
ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ตลาดน้ำตลิ่งชัน ตลาดน้ำขวัญเรียม
หรือตลาดน้ำพระยาสุเรนทร์ ฯลฯ
ซึ่งแต่ละสถานที่นั้นต่างก็มีของดีของเด็ดแตกต่างกันไป
แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการขายอาหารพื้นบ้านที่มีสูตรดั้งเดิม
หรือสินค้าแฮนด์เมดให้ได้หวนรำลึกถึงวันวานกันอย่างจุใจ

ถ้าต้องการการท่องเที่ยวที่ได้ความรู้ไปด้วย
การแบ่งเวลายามว่างไปเดินพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ
ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย ซึ่งในกรุงเทพฯ มีพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ
มากมายหลากหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย, อาร์ท
อิน พาราไดซ์ (กรุงเทพฯ), มิวเซียมสยาม,
หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร, วังสวนผักกาด,
พิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย, พิพิธภัณฑ์ของกองทัพอากาศ,
นิทรรศน์รัตนโกสินทร์, พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ, พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ กรุงเทพฯ, บ้านจิม
ทอมป์สัน ฯลฯ
ซึ่งการเดินเที่ยวพิพิธภัณฑ์นอกจากจะได้ความเพลิดเพลินและความรู้เพิ่มเติมแล้ว
ยังได้เที่ยวแบบทั้งครอบครัวอีกด้วย

อีกหนึ่งความสนุกสนานที่สามารถเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัว
ภายในสวนสยามมีเครื่องเล่นต่าง ๆ มากมาย มีทั้งหมด 5 โซน คือ 1.
สวนน้ำ มีสไลเดอร์ สระว่ายน้ำ และกิจกรรมทางน้ำอย่างครบครัน 2.
เอ็กซ์โซน เต็มไปด้วยเครื่องเล่นสุดหวาดเสียว 3. แฟมิลี่เวิลด์
มีเครื่องเล่นและกิจกรรมที่สามารถทำได้ทั้งครอบครัว 4. แฟนตาซีโซน
เป็นโซนที่จะเติมเต็มจินตนาการ และ 5. สมอลล์โซน
รวบรวมเครื่องเล่นที่เหมาะสำหรับเด็ก ภายในสวนสยามยังมีบริการร้านค้า
ร้านอาหาร การบริการนวดไทย ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
สอบถามราคาบัตรและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-919-7200
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก : siamparkcity.com)


ย่านเยาวราชเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจในการไปใช้วันหยุดที่นี่
เพราะมีทั้งแหล่งช้อปปิ้งและไหว้พระมากมาย
ซึ่งถ้าหากต้องการเสริมดวงเสริมบารมี
ชาวไทยเชื้อสายจีนในละแวกนี้แนะนำให้ไปไหว้พระขอพรกันที่วัดเล่งเน่ยยี่
แต่ถ้าต้องการแบบพุทธก็เดินลัดเลาะไปยังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธทศพลญาณหรือหลวงพ่อโต
เมื่อทำบุญเอาฤกษ์เอาชัยเสร็จเรียบร้อย
ก็สามารถไปเดินช้อปปิ้งได้ที่ตลาดสำเพ็งและพาหุรัด
ซึ่งมีสินค้าราคาถูกให้ได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ
ในช่วงเย็นยังมีร้านอาหารรสชาติอร่อยมากมายให้ได้ลิ้มลองกันอีกด้วย
(ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวนหาของกินร้านอร่อย)


คุณกำลังดู: เที่ยววันหยุดทั่วกรุง เดินเล่น ชิม ช้อปให้จุใจ
หมวดหมู่: เที่ยวกรุงเทพ
แชร์ข่าว